“เงินบาท” ร่วงหนักอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ จับตาสัญญาณไม่ดีฟันด์โฟลว์เริ่มไหลออกหุ้น-บอนด์ไทย “กรุงศรี” ชี้หลายปัจจัยรุมกดดัน “บาท-สกุลเงินภูมิภาค” อ่อนค่าก่อนประชุมเฟด 20-21 ก.ย. ทั้งเก็งขึ้นดอกเบี้ยแรง-ราคาทองร่วงแรงหลุดทุกแนวรับ แต่ยังเชื่อปลายปีพลิกกลับแข็งค่าได้ ฟาก “กสิกรไทย” คาด ธปท.เข้าประคองไม่ให้อ่อนค่าเร็ว ฟากแบงก์ชาติยันเข้าดูแลไม่ให้ผันผวนหนัก
นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์เงินบาทล่าสุด อ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ เป็นระดับอ่อนสุดรอบเกือบ 16 ปี นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ที่ออกมาสูงเกินคาด ทำให้ดอลลาร์ได้แรงหนุนจากการที่ตลาดคาดการณ์ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า เฟดอาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง หรือขึ้นต่อเนื่องนานกว่าที่เคยประเมินไว้
“สกุลเงินในภูมิภาคนี้ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็อ่อนค่าลงกันหมด อย่างเงินเปโซของฟิลิปปินส์ ก็อ่อนค่าที่สุดเป็นประวัติการณ์ แล้วก็เงินหยวนของจีนก็อ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็มีกระแสเงินทุนไหลออกจากทั้งตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรของไทย รวมกันประมาณ 7,200 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ซื้อมาต่อเนื่อง หรือซื้อสลับขาย และวันที่ 16 ก.ย. (ณ 15.30 น.) ไหลออกจากบอนด์อีกกว่า 4,000 ล้านบาท” นางสาวรุ่งกล่าว
![รุ่ง สงวนเรือง](https://www.siamlandbank.com/allnews/wp-content/uploads/2022/09/สงวนเรือง-copy.jpg)
โดยการที่เห็นเงินทุนเริ่มไหลออก ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ต้องจับตาใกล้ชิด เพราะที่ผ่านมา โฟลว์ไม่ได้ไหลออก นักลงทุนต่างชาติหากขายหุ้นก็จะเข้าซื้อบอนด์ หรือขายบอนด์ก็จะเข้าซื้อหุ้น สลับกันไป แต่รอบนี้เป็นการนำเงินออก
“ต้องดูอีกสักวันสองวันว่า ต่างชาติจะทิ้งเราหรือไม่ เพราะในปีนี้ ช่วงที่ผ่านมายังไม่เห็นภาพการไหลออกของเงินทุนแบบนี้ ต่างชาติเก็บหุ้นไทยมาตลอด ซื้อสุทธิหุ้นไทยมาแล้ว 158,000 ล้านบาท ก็คงต้องดูว่าจะแค่ชะลอ หรือจะจบรอบเงินไหลเข้าแล้ว” นางสาวรุ่งกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันค่าเงินบาท จากการที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก จนลงไปอยู่ระดับกว่า 1,660 เหรียญต่อออนซ์ เรียกได้ว่าราคาทองร่วงหลุดทุกแนวรับ ซึ่งเวลาที่ราคาทองคำลงมาก ๆ ก็จะเห็นโฟลว์การนำเข้าจากผู้ค้าทองคำในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีแรงซื้อดอลลาร์ ขายบาทเพิ่มขึ้น
“จะเห็นว่ามีหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้บาทอ่อนค่าไประดับ 37 บาท โดยระหว่างวันก็น่าจะมีทางการเข้ามาดูแล แต่ก็คิดว่า คงแค่ช่วยชะลอการอ่อนค่าเท่านั้น ไม่ให้อ่อนเร็วไป จนคนตื่นตกใจ แต่ถ้าดูแล้ว สกุลเงินภูมิภาคตั้งแต่สหรัฐรายงานเงินเฟ้อ ก็อ่อนนำเราไปก่อนแล้ว ทั้งเงินวอนเกาหลีใต้ เงินรูปีของอินเดีย ตอนนี้ก็เป็นคิวของเงินบาท เพราะมีปัจจัยทองคำมาเสริมด้วย” นางสาวรุ่งกล่าว
ทั้งนี้ สถานการณ์ค่าเงินดังกล่าว เป็นความผันผวนที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการประชุมเฟด ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ซึ่งผลการประชุมที่จะออกมา จะเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางค่าเงินในระยะต่อไป โดยตลาดมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.75% โดยรอบนี้ตลาดก็รอดูประมาณการดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด (dots plot) ด้วย
นางสาวรุ่งกล่าวว่า ขณะนี้กรุงศรียังประมาณการค่าเงินบาท สิ้นปี 2565 ที่ระดับ 35.50-36.00 บาทต่อดอลลาร์อยู่ เนื่องจากยังคงเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น ทำให้การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง และเงินบาทน่าจะแข็งค่ามากขึ้นได้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ หากในไตรมาส 4 เริ่มเห็นว่าเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มชะลออย่างชัดเจนมากขึ้น ตลาดอาจจะปรับมุมมอง จากที่ตอนนี้กลัวการขึ้นดอกเบี้ยกระชากแรง แต่หากเฟดทำจะยิ่งเร่งการเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐได้
“ช่วงสั้น ก่อนจะทราบผลประชุมเฟด บาทก็มีโอกาสอ่อนไปอีก เพราะความไม่แน่นอนยังมีเยอะ ยังไม่รู้ว่าเฟดจะเซอร์ไพรส์ไปในทางไหน ซึ่งในช่วงก่อนวันที่ 21 ก.ย.ที่จะทราบผลประชุมเฟด กรุงศรีประเมินกรอบอยู่ที่ 36.85-37.25 บาทต่อดอลลาร์” นางสาวรุ่งกล่าว
ขณะที่นางสาวกฤติกา บุญสร้าง ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เงินบาทอ่อนค่าจนทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ แต่ยังอยู่ระดับอ่อนค่าสุดนับตั้งแต่ปี 2006 อยู่ ซึ่งเป็นความผันผวนก่อนมีการประชุมเฟด ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กสิกรไทยยังมองว่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ อย่างไรก็ดี จะมีการพิจารณาประมาณการอีกครั้งในเดือน ต.ค.หรือ พ.ย.นี้
“เงินบาททะลุ 37 บาท ทำระดับสูงสุดที่ 37.11 บาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ระหว่างวันคาดว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะเข้ามาช่วยดูแลส่วนหนึ่งเพื่อลดความผันผวนของค่าเงินบาท” นางสาวกฤติกากล่าว
นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงที่เงินบาทอ่อนค่าผ่านระดับ 37.00 บาท ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยต่างประเทศทั้งจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าเดิม หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง และ risk sentiment ของค่าเงินในกลุ่ม EM Asia ที่ปรับแย่ลงหลังค่าเงินหยวนปรับอ่อนค่าขึ้นเหนือระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ รวมถึงยังมีปัจจัยเฉพาะของไทยจากราคาทองคำที่ปรับลดลง ส่งผลให้มีแรงซื้อเงินดอลลาร์จากกลุ่มบริษัททองคำเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ธปท. ได้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และพร้อมเข้าดูแลเมื่อเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากผิดปกติเพื่อไม่ให้กระทบต่อการปรับตัวของภาคเศรษฐกิจจริง ทั้งนี้ ภาคเอกชนควรบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินในสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
- ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 17 ปี
- ค่าเงินบาทวันนี้ (16 ก.ย.) เปิดตลาดอ่อนค่าใกล้แตะ 37 บาท เอฟเฟ็กต์หยวนร่วงหนัก
- ทองดิ่ง รูปพรรณหลุด 3 หมื่น กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย
- ธปท.ติดตามสถานการณ์บาทอ่อนทะลุ 37 บาทใกล้ชิด พร้อมดูแลความผันผวน
อ่านข่าวต้นฉบับ: เงินบาทอ่อนค่าหลุด 37 บาท ทองร่วงแรง-จับตาเงินทุนเริ่มไหลออก
ที่มา : Prachachat/finance
อ่านเพิ่มเติมได้ที่…เงินบาทอ่อนค่าหลุด 37 บาท ทองร่วงแรง-จับตาเงินทุนเริ่มไหลออก